การใช้เครื่องไฟฟ้าให้ปลอดภัย ในหน้าฝน ต้องทำอย่างไร

อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า “เครื่องใช้ไฟฟ้า” กับ “น้ำ” เป็นของที่ไม่ถูกกันสุดๆ เพราะถ้าหากเมื่อไหร่ที่น้ำอยากจะกระชับสัมพันธ์ เป็นพันธมิตรกับเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยแอบเล็ดลอดเข้าไปในแผงวงจรเมื่อไหร่ ปัญหาก็จะตามมาทันที ไม่ว่าจะเป็น การที่เครื่องใช้ไฟฟ้าช็อตจากไฟฟ้าลัดวงจรจนพัง หรือที่แย่กว่านั้น ก็อาจเป็นสาเหตุของอัคคีภัย ไฟไหม้บ้านได้หากไม่มีผู้ดูแลอย่างทันท่วงที

และยิ่งเป็นในช่วงนี้ที่เริ่มเข้าสู่หน้าฝน เรื่องที่ต้องระวังนอกจากเรื่องของน้ำแล้ว เรื่องของ “พายุฝนฟ้าคะนอง” ก็มีผลต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่นกัน วันนี้เฮียณัฐจาก MThai Technology ก็มีความรู้ดีๆ จากทาง การไฟฟ้านครหลวง มา เล่าสู่กันฟังครับ เกี่ยวกับ การใช้เครื่องไฟฟ้าให้ปลอดภัย ในช่วงหน้าฝน ต้องทำอย่างไรบ้าง เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับแฟนๆ MThai ได้ทราบกันครับ โดยแบ่งออกเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิด ที่คาดว่าน่าจะเป็นของใกล้ตัว ที่เพื่อนๆ ใช้กันทุกวันอยู่แล้ว โดยเริ่มกันที่ตัวนี้เลย

คอมพิวเตอร์

เพื่อความปลอดภัยระดับ 5 กะโหลก หลังจากใช้คอมพิวเตอร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราควรถอดสายโทรศัพท์ออกจากตัวโมเด็ม และเราเตอร์เพื่อป้องกันไฟฟ้ากระชากมาตามสายโทรศัพท์ ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์ภายใน เช่น เมนบอร์ด แรม หรืออื่นๆ เสียหายได้ และให้ถอดปลั๊กคอมพิวเตอร์ และโมเด็ม เราเตอร์ออกจากเต้าเสียบไฟบ้านด้วยล่ะ

ควรถอดสายแลน (LAN) เมื่อเลิกใช้งานคอมพิวเตอร์

โมเด็ม เมื่อเลิกใช้งาน ก็ควรปลั๊กออกเมื่อเลิกใช้เช่นกัน

โทรทัศน์

ควรติดตั้งเสาอากาศทีวีให้มั่นคงแข็งแรง และห่างจากแนวสายไฟแรงสูงให้มากที่สุด และควรกะระยะว่า หากเสาอากาศล้มหรือหักลงมา จะต้องไม่โดนสายไฟฟ้าแรงสูง และในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ควรถอดสายอากาศออกจากทีวีทุกครั้งเมื่อไม่ใช้ รวมทั้งไม่เปิดทีวีขณะที่ฝนตกฟ้าร้องด้วย เพราะหากเกิดฟ้าแรงๆ ขณะกำลังดูทีวีอยู่แล้วล่ะก็ มีโอกาสได้ซื้อทีวีเครื่องใหม่แน่นอน (หรือจะใช้โอกาสนี้ หาเรื่องเปลี่ยนโทรทัศน์ก็ไม่ว่ากันนะ อิอิ)

การรับชมโทรทัศน์ขณะฝนฟ้าคะนองก็เป็นเรื่องที่ต้องระวังเป็นอย่างมาก

เครื่องทำน้ำอุ่น

ฝนตก อากาศเย็น คงไม่มีอะไรจะสุขไปกว่าการได้อาบน้ำอุ่นๆ ให้คลายหนาว แต่อย่าลืมนะครับว่า บ่อยครั้งที่มีผู้เสียชีวิตจากการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นเวลาติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น ต้องย้ำกับช่างผู้มาติดตั้งให้ติดตั้งสายดิน และ เครื่องตัดไฟรั่ว ให้ถูกต้องตามมาตรฐาน ทั้งนี้ต้องมีการกดปุ่มทดสอบการทำงานของเครื่องตัดไฟรั่วเป็นประจำ

เครื่องปรับอากาศ

แม้บางท่านอาจจะเข้าใจว่าประเทศไทยที่มีฤดูกาลทั้งหมด 3 แบบ คือ ร้อน ร้อนมาก และร้อนโคตะระ แต่จริงๆ บ้านเรามีหน้าฝนด้วยนะครับ (รวมถึงอาจมีหน้าแอบหนาวอีกประมาณปีละ 3-5 วัน) และพอเข้าหน้าฝนเมื่อไหร่ ก็ควรมีการตรวจสอบสภาพเครื่องปรับอากาศกันหน่อยครับ ว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วหรือไม่ โดยเฉพาะสายไฟฟ้าที่ใช้ต่อเข้ากับเครื่องปรับอากาศ และที่สำคัญที่สุด สำหรับผู้ที่กำลังจะติดตั้งใหม่ คือ เครื่องปรับอากาศต้องไม่ติดตั้งใกล้สารหรือวัตถุไวไฟเด็ดขาดนะครับ

โคมไฟสนาม

สำหรับโคมไฟสนาม อุปกรณ์ให้แสงสว่างประจำบ้าน ที่ต้องตากแดด ตากฝนทั้งวันทั้งคืน เราก็ต้องหมั่นดูแล ตรวจสอบสภาพฉนวนของสายไฟให้ดีอยู่เสมอไม่ให้น้อยหน้าไปกว่าการดูแลภรรยาที่ บ้าน รวมไปถึงวงจรสำหรับโคมไฟสนาม จะต้องมีการติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่ว และมีการติดตั้งสายดินที่ถูกต้องตามมาตรฐานด้วย

สวิตช์กริ่งไฟฟ้า

หากมือเปียกชื้นหรือยืนอยู่ในพื้นที่แฉะ ไม่ควรสัมผัสกริ่งโดยตรง เพราะจะทำให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านทำให้ถูกไฟดูดได้ ทางที่ดีควรติดตั้งสวิตช์กริ่งไฟฟ้าที่กันฝน มีฝาปิด และหมั่นตรวจตราให้อยู่ในสภาพปลอดภัยพร้อมใช้งานอยู่เสมอ หรือจะให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ควรเลือกใช้กริ่งไฟฟ้าแบบไร้สายเพราะจะช่วยลดโอกาสการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรจาก การชำรุดของสายไฟฟ้าได้ แถมยังเพิ่มความเก๋ให้กับบ้านของคุณด้วย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีป้องกันการเกิดอันตรายจากการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าใกล้ ตัวในหน้าฝนที่กำลังจะถึงนี้นะครับ แต่สิ่งที่สำคัญนั้น ทุกบ้านควรติดตั้งสายดินพร้อมเครื่องตัดไฟรั่วเพื่อป้องกันอันตรายจากไฟดูด และป้องกันอัคคีภัยด้วยครับ

ที่มา mthai.com